วันที่ 30 มิ.ย. 64 ควันหลงฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2020” รอบ 16 ทีม คู่ที่ 7 ซึ่งทีมชาติเยอรมนี รองแชมป์กลุ่มเอฟ ดีกรีแชมป์สูงสุด 3 สมัยเทียบเท่า สเปน แพ้ให้กับ ทีมชาติอังกฤษ แชมป์กลุ่มดี ที่หวังลุ้นแชมป์สมัยแรกไปด้วยสกอร์ 0-2 ทำให้ “สิงโตคำราม” เข้ารอบ 8 ทีมไปพบ ยูเครน ที่เฉือนชนะ สวีเดน ในช่วงทดเจ็บของการต่อเวลาพิเศษ 30 นาที 1-2 ในวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคมนี้
ขณะที่ “อินทรีเหล็ก” ต้องม้วนเสื่อกลับบ้านเร็วกว่าที่แฟนบอลในประเทศตั้งความหวัง โดย โยอาคิม เลิฟ ซึ่งได้คุมทีมเป็นนัดสุดท้ายก่อนโบกมือลาหลังหมดสัญญา เพื่อเปิดทางให้ ฮันซี ฟลิค อดีตกุนซือบาเยิร์น มิวนิก เข้ามารับไม้ต่อหลังจบยูโร 2020 ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “นี่เป็นความผิดหวังครั้งใหญ่สำหรับพวกเราทุกคน เราเคยตั้งความหวังว่าจะไปได้ไกลกว่านี้ในรายการนี้ และความคาดหวังที่มีต่อทีมชุดนี้ก็สูงเหลือเกิน”
“ในเกมระดับนี้ มันจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้โอกาสที่มีอยู่ไม่กี่ครั้งให้ดีที่สุด แต่โชคร้ายที่โอกาสจะแจ้งของ ติโม แวร์เนอร์ และ โธมัส มุลเลอร์ ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้ ดังนั้นมันจึงรู้สึกแย่พอสมควรที่เราต้องตกรอบ”
ด้าน มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูกัปตันทีมชาติเยอรมนี ก็กล่าวในทำนองเดียวกันว่า “วันนี้เรามีโอกาสดีที่จะผ่านทีมที่แข็งแกร่งไปได้ แต่เราพลาดที่ไม่สามารถฉกฉวยโอกาสนี้ไว้ได้และมันก็น่าผิดหวังอย่างยิ่ง มันเป็นเรื่องยากที่แนวรุกของเราจะทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันได้กับการที่เราวางบอลยาวไปข้างหน้า และการจ่ายบอลตามช่องก็ไม่ได้ผลเช่นกัน เราจึงไม่สามารถเล่นงาน อังกฤษ ได้เท่าที่ควร”