สถิติที่ผ่านมาทั้งสองทีมเจอกับมาแล้ว 11 ครั้ง เบลเยียม เอาชนะไปได้ 3 ครั้ง เสมอกัน 4 ครั้ง และ อิตาลี ชนะไป 4 ครั้ง หนล่าสุดเจอกันในยูโร 2016 อิตาลี ชนะ 2-0
เส้นทางในยูโร 2020 เบลเยียม คว้าแชมป์กลุ่ม บี ด้วยการชนะ รัสเซีย 3-0, ชนะ เดนมาร์ก 2-1 และ ชนะฟินแลนด์ 2-0 ส่วนรอบ 16 ทีมสุดท้าย เฉือนชนะแชมป์เก่าอย่างโปรตุเกส 1-0
ทางฟากอิตาลี ผลงานดีไม่แพ้กัน รอบแบ่งกลุ่ม คว้าแชมป์กลุ่ม เอ ด้วยการชนะ ตุรกี 3-0, ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 และชนะ เวลส์ 1-0 ส่วนรอบ 16 ทีมสุดท้าย ชนะ ออสเตรีย ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 หลังจากเสมอกันใน 90 นาที 0-0
ความพร้อมเกมนี้ โรแบร์โต มาร์ติเนซ เฮดโค้ชทีมชาติเบลเยียม รอลุ้นเช็กความฟิตสองกองกลางตัวเก่ง อย่าง เควิน เดอ บรอยน์ และ เอเดน อาซาร์ โดยจะยังใช้แผนการเล่น 3-4-2-1 ธิโบต์ กูร์กตัวส์ : ยาน แฟร์ตองเกน, โธมัส แฟร์มาเลน, โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์ : ธอร์กาน อาซาร์, อักเซล วิตเซล, ยูรี ตีเลอมันส์, โธมาส์ มูนิเยร์ : ยานนิก การ์รัสโก, ดรีส เมอร์เตนส์ : โรเมลู ลูกากู
ส่วน โรแบร์โต มันชินี เทรนเนอร์ทีมชาติอิตาลี ได้รับข่าวดี จอร์โจ คิเอลลินี กองหลังกัปตันทีมน่าจะฟิตเต็มที่กลับมาลงเฝ้าแดนหลังได้ โดยจะใช้ระบบการเล่น 4-3-3 จานลุยจิ ดอนนารุมมา : เลโอนาร์โด สปินาซโซลา, จอร์โจ คิเอลลินี, เลโอนาร์โด โบนุชชี, โจวานนี ดิ ลอเรนโซ : มัตเตโอ เปสซินา, จอร์จินโญ, มาร์โก แวร์รัตติ : ลอเรนโซ อินซินเญ, ชิโร อิมโมบิเล, โดเมนิโก เบราร์ดี